ไม่ว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือแค่ 'ถูก' เรียกก็ตามที
เพราะมันจะไขว้เขวไปหมด ขวาบางคนไปเรียกร้องประชาธิปไตยภายใต้ซากการนำของระบอบทักษิณ (และบางคนก็ถีบส่งทักษิณ) ส่วนซ้ายจำนวนมาก (รวมทั้งเอ็นจีโอบางส่วน) ก็ถูกกล่าวหาว่ากลายเป็นขวา ละทิ้งประชาชน และไปเข้ากับพวกอำมาตย์
ผมคิดว่าเรื่อง ซ้าย-ขวา ไม่ใช่กรอบในการมองปัญหาของบ้านเราอีกต่อไปแล้ว แต่คนในบางเว็บไซต์ และอาจารย์สายมาร์กซิสต์บางคน ก็ยังอยากใช้กรอบนี้ในการมองปัญหาอยู่
ซึ่งผมว่าทำให้พลาดเป้า มองปัญหาไม่ทะลุ ไม่เห็นถึงสาเหตุที่แท้จริง และมักทำให้เกิด comment แปลกๆ
อย่างไรก็ดี กรอบ ซ้าย-ขวา ก็ง่ายดีในการที่จะ label คน และกระทั่งอีกฝ่าย (ซึ่งถูกตั้งฉายาว่าเป็นอำมาตย์) ก็ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ หรือเผลอๆ ก็อาจตกอยู่ในภาวะมนต์สะกดของ ซ้าย-ขวา ด้วยเหมือนกัน (เพราะติดเชื้อไวรัสทางประวัิติศาสตร์มา)
สรุปก็คือ ประเทศนี้ 'อาจ' มีคนสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กัน โดย 'คิดเอาเอง' ว่ากำลังสู้กันด้วยอุดมการณ์แบบ ซ้ายกับขวา เหมือนที่เคยเป็นมาในยุคคอมมิวนิสม์
แต่มัน 'ยัง' เป็นอย่างนั้นอยู่ไหม?
ก็อาจเป็นได้-แต่จะไม่มี ideology อื่นเข้ามากำกับโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยหรือ?
โลกทุกวันนี้ 'ซับซ้อน' มากกว่าที่เราเห็น ตั้งแต่เรื่องเพศ ไม้จิ้มฟัน ดิลโด หรือการเรียบเรียงดนตรีเพื่อประชันกันในรายการคุณพระช่วย และการซ้อมแดนเซอร์ในรายการชิงช้าสวรรค์
แล้วคิดว่าเรื่องการเมืองมันจะยัง 'ง่ายๆ' อยู่แค่กรอบการมองแบบ ซ้าย-ขวา อยู่อีกหรือ
ไม่คิดว่ามันมีความซับซ้อนมากไปกว่านี้อีกหรือ?
เหมือนคนตบกันเพราะคิดว่าอีกฝ่ายแย่งผู้ชายของตนไปประเด็นเดียว พูดแค่นี้ บางคนก็อาจคิดว่า 'คน' สองคนนั้นต้องเป็นผู้หญิง และผู้ชายก็เป็นวัตถุตั้งมั่นสถาพรให้ถูกแย่งไปได้ง่ายๆ พอถามแบบนี้ บางคนก็คิดว่าต้องเป็นกะเทยตบกันแน่ๆ หรือไม่ก็เป็นกะเทยตบกับผู้หญิง แต่ที่จริง แค่ 'ตัวตน' ของคนที่ตบกันในยุคนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมานั่ง 'แบ่งประเภท' และคิดแบบ stereotypicalism กันอีกต่อไปแล้ว
ยังไม่นับรวม 'ประเด็น' อีก เพราะคนสองคนที่ตบกันอาจคิดว่าตัวเองตบกันด้วยเรื่องแย่งผู้ชาย (หรือประชาชน หรือประชาธิปไตย หรืออะไรที่ฟังดูโคตรจะสูงส่ง) แต่ที่จริงมันอาจเป็นเรื่องอื่นที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนสองคนนั่นก็ได้
คำว่า ซ้าย-ขวา ชวนให้คิดถึงการต่อสู้ทางชนชั้น แต่ถ้าดูคนที่เข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คุณจะเห็นว่ามันไม่ได้มีเส้นพรมแดนแบ่งแยกทางชนชั้นมากขนาดนั้น ทั้งสองฝ่ายมีชนชั้นกลาง ชนชั้นล่าง และชนชั้น (ที่ถูกเรียกว่า) สูง อยู่ทั้งหมด
ผมไม่ใช่คนฉลาดเฉลียวอะไรนัก ไม่ใช่นักวิชาการ และยังไม่รู้ว่าควรจะใส่ 'แว่น' อันไหนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมเพียงแต่คิดว่า บางทีเราอาจใช้แว่นเพียงอันเดียวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เราอาจต้องช่วยกันใส่แว่นหลายๆอันมองดูสิ่งที่เ้กิดขึ้น
ถ้าเราติดยึด เราอาจกลายเป็นไดโนเสาร์ และโดยไม่รู้ตัว เราอาจกลายพันธุ์-เหมือนที่ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ เคยวิพากษ์วงการสื่อไว้...ว่าไดโนเสาร์อาจกลายพันธุ์กลายมาเป็นเหี้ย
และเหี้ยก็ชอบเรียกสิ่งนั้นว่าวิัวัฒนาการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น