๐๔ พฤษภาคม ๒๕๕๒

อะไรคือแก่นของการต่อสู้กันแน่?

กิระดังได้ยินมา ว่าบางแดงก็แปลงร่างเป็นบางเหลือง ฉับพลันทันทีที่เห็นความรุนแรง
และกลับกัน บางเหลืองก็แปรผันเป็นบางแดง เมื่อล่วงรู้อะไรบางอย่าง

คำถามก็คือ เรากำลังต่อสู้เพื่ออะไร?
ถ้าตั้งคำถามแบบชื่อหนังสือของนักเขียนซีไรต์คนล่าสุด (ที่ดูจะไม่มีใครสนอกสนใจเขาเท่าไหร่นัก) คงต้องถามว่า 'เราหลงลืมอะไรบางอย่าง' กันไปหรือเปล่า?

เหมือนเราไม่มีแก่นกลางความคิดในการต่อสู้กันเลย เราเพียงแต่คิดว่า ถ้าสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไป บางทีอาจเกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาได้ แล้วเราก็เร่งมือพยายามล้มล้างสิ่งนั้น

สำหรับบางคน เมื่อเห็น 30% ของความชั่วหรือด้านลบของสิ่งนั้น ก็พานสวิงกลับไปอยู่อีกขั้วหนึ่ง โดยมีพลพรรคของขั้วนั้นโห่ร้องต้อนรับยินดี

ไม่มีใครถามถึงความคิด

ทุกคนทำตัวเยี่ยง 'สัตว์ฝูง' ขอให้มีฝูง ขอให้ได้มีสังกัด

และเมื่อ 'ฝั่งนี้' มันชั่วเสียแล้ว สถานที่เดียวที่จะไปสังกัดได้ ก็คือต้องไป 'ฝั่งโน้น'

จึงมีคนที่ทำทั้งร่วมปิดสนามบิน และร่วมปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

คำถามก็คือ แล้วแก่นแกนในการคิดคืออะไร อะไรคืออุดมคติ อะไรคือสิ่งที่เราศรัทธายึดมั่น มาร์กซิสม์หรือ คอมมิวนิสม์หรือ กษัตริย์นิยมหรือ อัตถิภาวะนิยมหรือ โพสต์โมเดิร์นนิสม์หรือ

หรือว่าแค่ฝูง?

เราเรียกร้องผู้อุปถัมภ์กันอยู่ทุกลมหายใจ ถ้าไม่ใช่ใครคนนี้ ก็ต้องเหวี่ยงไปเป็นใครคนนั้น แล้วกระเหี้ยนกระหือรือที่จะฟาดฟันกัน

เมื่อก่อน ซ้ายกับขวา แบ่งแยกกันด้วย ideology ที่ชัดเจน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ ถูกละ-บางคนอาจมี และผู้คนในประเทศนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่ใช่แค่ชาวบ้าน ชายขอบ รากหญ้า แต่กระทั่งชนชั้นสูงเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

แต่เราต้องการอะไรเล่า?
เราต้องการอะไร?

ในเว็บไซต์บางแห่งที่ต่อต้านสิ่งนั้น ก็กลับยกย่องสิ่งที่ดูเหมือนศัตรูของสิ่งนั้น ทั้งที่แท้จริงแล้วก็คือลูกหลานของสิ่งนั้น

มันเป็นตรรกะที่ย้อนแย้ง

และแสดงสำนึกไพร่ แม้กระทั่งในบรรดาผู้ต่อต้านสิ่งนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น